Credit

Credit : http://www.kct4gammer.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539606841&Ntype=3
             http://www.gump.in.th/web/news/detail.php?NewsId=27
             http://enctgc.exteen.com/20110327/6-8226-mechanical-keyboard
             http://webboard.gg.in.th/topic/10/530892
           

ผลดีของ Mecahnical keyboard

ซึ่งจากข้อมูลต่างๆจะเห็นได้ว่าMechanical Keyboard มีความคงทน, ตอบสนองการสัมผัสอย่างรวดเร็วรวมถึงมีการใช้งานได้เป็นระยะเวลายาวนานกว่าคีย์บอร์ดทั่วๆไป จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมนักเล่นเกมส์ทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวก FPS ส่วนใหญ่จึงเลือกใช้ Mechanical Keyboard...

การเชื่อต่อแบบ USB กับ PS/2

เราแบ่งการเชื่อมต่อของคีย์บอร์ดเป็น 2 แบบ แบบที่ 1 คือ USB(นิยมใช้กันทั่วไป) และ แบบที่ 2 คือ PS/2(หัวกลม) คำถามคือ แบบไหนกันหละที่ดีกว่ากัน ? เรามาดูข้อดีของ PS/2 กัน
1.PS/2 สามารถใช้ NKRO(รองรับการกดพร้อมกันทุกปุ่ม) แต่ว่า USB จะได้แค่ 6KNRO นั่นก็คือ 6 ตัวนั่นเอง
2.PS/2 ไม่ต้องรอ CPU(Polling) โดยเมื่อกดแล้วมันจะส่งข้อมูลเข้าไปที่ CPU โดยตรง
***หวังว่าน่าจะเป็นข้อมูลให้สำหรับบางท่านที่กำลังเลือกใช้นะครับ

Cherry MX Clear/White Switch

Cheery MX Clear/White Switch
Cheery MX Clear/White เป็นสวิทประเภท Tactile เมื่อกดปุ่มจะไม่มีเสียง ซึ่งน้ำหนักที่ใช้ในการกดจะอยู่ที่ประมาณ 55กรัม และ 65กรัม โดยเมื่อกดลงไป 2 มิล สวิทจะทำงาน และสามารถกดลงไปได้สุด 4 มิล
Cherry MX White เป็นสวิทที่หายากมากที่สุด ใช้แรงกดมาก ให้ความรู้สึกเหมือนกด rubber dome ราคาแพงพอๆ กับ Cherry MX Red ทำให้ไม่ค่อยมีคีย์บอร์ดที่เป็นสวิทแบบนี้ทั้งอัน เท่าที่เคยเห็นก็จะมีใช้ในบางปุ่มปนกับสวิทแบบอื่น เช่น space bar หรือ shift

Cheery MX Brown Switch

Cheery MX Brown Switch
Cheery MX Brown เป็นสวิทประเภท Tactile เมื่อกดคีย์บอร์ดจะไม่มีเสียง โดยน้ำหนักที่ใช้ในการกดจะอยู่ที่ประมาณ 45กรัม และ 55กรัม ซึ่งเมื่อกดลงไป 2 มิลสวิทจะทำงาน และ สามารถกดลงไปได้สุด 4 มิล
Cheery MX Brown เป็น Switch ประเภทเดียวกับ Cherry MX Blue แต่แก้ปัญหาเรื่องเสียงรบกวน นั่นคือ Switch ตัวนี้จะไม่มีเสียง ขณะกดใช้งาน แต่ยังคงมีสัมผัส การตอบสนอง แบบ 2จังหวะเช่นเดียวกับ Cherry MX Blue อีกทั้งยังใช้น้ำหนักในการกดน้อยกว่าด้วย

Cheery MX Blue Switch

Cheery MX Blue Switch

Cheery MX Blue เป็นสวิทประเภท Tactile Switch มีเสียงเมื่อกด น้ำหนักที่ใช้ในการกดอยู่ที่ 50 กรัม และ 60 กรัม โดยเมื่อกดลงไป 2มิล จะทำงานแต่สามารถกดลงไปได้สุด 4มิล Cheery MX Blue Switch สำหรับ Cherry MX Blue เป็น Switch ประเภท Tactile Switch จะมีสัมผัสในการกด 2 จังหวะ คือจังหวะกดคีย์และจังหวะคีย์ทำงาน และเมื่อกดคีย์ลงไปจะมีเสียง "คลิ๊ก" สำหรับ Cherry MX Blue ใช้น้ำหนักในการกด น้อยกว่า Cherry MX Black คนที่ใช้ในงานพิมพ์สัมผัสเป็นส่วนใหญ่อาจชอบ Switch สีนี้ ส่วนการใช้เล่นเกมส์ หากเป็นเกมส์ที่ต้องกดรัวๆ ถี่ๆ อาจจะตอบสนองได้ไม่ดีนัก เพราะจุด operating point ห่างกับจุด reset point มากกว่า Switch ตัวอื่นๆ และมีเสียงที่ค่อนข้างดัง ขณะใช้งาน

 

 

 

Cheery MX Red Switch

Cheery MX Red Switch

Cheery MX Red เป็นสวิทประเภท Linear ไม่มีเสียงเวลากด ใช้แรงกดที่ 45 กรัม โดยเมื่อกดลงไป 2 มิลสวิทจะทำงาน แต่กดได้สุด 4 มิล

Cheery MX Red Switch เป็น Switch ประเภทเดียวกับ Black นั่นคือจะมีแรงต้านคงที่ และสม่ำเสมอตลอดช่วงการกด แต่จะแตกต่างกันตรงที่นำหนักที่ใช้ในการกดนั้น Red จะใช้น้ำหนักน้อยกว่า นั่นหมายความว่า Cherry MX Red จะมีปุ่มสัมผัสที่นุ่ม เบา และแรงต้านน้อยกว่า Cherry MX Black  ไม่ค่อยมีใช้งานเท่าไหร่ เพราะมันกดง่ายเกินไป แถมยังหายากมากทำให้ราคาคีย์บอร์ดที่ใช้สวิทแบบนี้ค่อนข้างแพง จะใช้กับคีย์บอร์ดรุ่นพิเศษ (Special Edition) หรือใช้กับบางปุ่มเท่านั้น เช่นปุ่ม Escape หรือ Space

 

 

 

Cheery MX Black Switch

Cheery MX Black Switch

Cheery MX Black เป็นสวิทประเภท Linear Switch ไม่มีเสียงเวลากด น้ำหนักที่ใช้เวลากดจะอยู่ที่ประมาณ 60 กรัม โดยเมื่อกดลงไป 2 มิลสวิทจะทำงาน แต่สามารถกดลงไปได้สุด 4 มิล
Cheery MX Black เป็นสวิทที่ไม่มีการตอบสนองการกด สามารถกดลงไปจนสุดโดยไม่มีแรงต้านเหมาะสำหรับเอาไปเล่นเกมมากที่สุด ใช้แรงกดแต่ละคีย์มากที่สุดในตระกูล Cheery MX ทำให้ระหว่างการเล่นเกมมีโอกาสที่นิ้วจะพลาดไปโดนคีย์อื่นแล้วทำงานมีน้อยลง ไม่ค่อยเหมาะกับการพิมพ์งานเท่าไหร่เพราะคีย์มันแข็งพอสมควร

เราสามารถแข่งประเภทของสวิทได้ 2 ชนิดกว้างๆ ก็คือ Linear Switch และ Tactile Switch
1.Linear Switch เป็นสวิทที่มีแรงต้านระดับเดียวกันตลอด ใช้แรงกดเท่ากันตลอดตั้งแต่เริ่มกดจนลงไปสุด เหมาะสำหรับเล่นเกม
2.Tactile Switch เป็นสวิทที่มีแรงต้านในแต่ละระยะการกดไม่เท่ากัน คือจะมีบางช่วงที่กดให้แรงขึ้นเพื่อให้สวิทกดลงไปได้ ลักษณะจะเหมือนมีอะไรมาต้านนิดหน่อย
มีความรู้สึกว่ากดลงไปแล้วจริงๆ เหมาะสำหรับใช้พิมพ์งาน
ซึ่งแรงกดแต่ละแบบก็ต่างกันออกไป

Mechanical-switch Keyboard เป็นคีย์บอร์ดที่ใช้กลไกในการทำงาน ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 แบบใหญ่ๆ แต่จะขอกล่าวถึงสวิท Cheery MX จากเยอรมัน เพราะ เป็นที่นิยมมากในช่วงนี้ ซึ่งแรงกดจะแบ่งตามสีของสวิท ซึ่งมี 5 สี คือ ดำ, แดง , น้ำเงิน น้ำตาล และ ขาว แต่ละสี ก็จะมีข้อดีแตกต่างกันออกไป โดยข้อดีของคีย์บอร์ดชนิดนี้หลักๆแล้วก็คือ สามารถกดปุ่มพร้อมกันได้หลายปุ่มนั่นเอง เพราะตัวควบคุมสวิทจะแยกออกไปเป็นตัวๆ ทำให้สามารถกดปุ่มทั้งหมดได้พร้อมกันนั่นเอง รวมถึงความทนทานที่สูงจึงทำให้คีย์บอร์ดชนิดนี้ราคาสูงกว่า คีย์บอร์ดทั่วไป

สวัสดีครับ
เราจะมาดูกันนะครับว่า Mechanical keyboard ที่เกมเมอร์ไทย และ ทั่วโลก ใช้กัน มันเป็นยังไง ดีอย่างไร ทำไมเกมเมอร์ทั่วโลกเขาถึงใช้กัน
จะพยายามนำข้อมูลมาลงเรื่อยๆ นะครับ , ข้อมูลส่วนใหญ่จะนำมาจากแหล่งข้อมูลอื่นจากหลายๆแหล่งนะครับ ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยครับ